รีวิว MG 1/100 Gundam RX-78-2 Ver 3.0 - Review Part 2

กลับมาสานต่อรีวิว Gundam RX-78-2 Ver. 3.0 ในตอนที่ 2 คราวนี้ผมจะมาเล่าถึงการต่อดิบเจ้าตัวนี้ให้ฟังครับว่ามันเป็นยังไง ลำบากลำบนแค่ไหนกับเหล่าชิ้นส่วนเล็กๆของมัน ซึ่งแน่นอนว่ามันทำให้รายละเอียดบนตัวหุ่นดูสวยงามขึ้น แต่ก็แลกมาด้วยอาการปวดกบาลกับวิธีการต่อของมันด้วยเช่นกันครับ

ก่อนอื่นมาดูที่ดีคอลที่แถมมาให้ในกล่องกันก่อน ก็ถือว่าแผ่นใหญ่พอสมควรครับ แต่ผมยังไม่ได้ใช้เก็บไว้ก่อน เพราะกะว่าถ้ามีเวลาว่าง (อีกแล้ว) จะเอาเจ้ากันดั้มตัวนี้มาทำสีใหม่ แล้วถึงตอนนั้นค่อยแปะดีคอลครับ

เมื่อดูตามใบสั่ง (คู่มือประกอบ) สิ่งแรกเลยที่เราจะต้องจัดการก็คือยานรบ Core Fighter ซึ่งเป็นตัวเดียวกันกับเวอร์ชั่น 2.0 มาเลย Bandai ประหยัดแม่พิมพ์ไปได้อีกแล้วครับท่าน! ปัญหาในการต่อของมันก็คือช่วงปีกด้านหลังที่ต่อกับไอพ่น มันเสียบไม่เข้า จริงๆคือเสียบไม่ลงล็อคของมันครับ เพราะเราไม่แน่ใจว่ามันรูไหนกันแน่ ที่มันอยากให้เราเสียบ ... แถมในคู่มือการต่อก็ดันบรรยายรูปมาในมุมมองที่ชวนงงมาก ผมนั่งเสียบเข้าเสียบออกอยู่หลายรอบจนแทบแตก (ชิ้นส่วนพลาสติก) กว่าจะลงล็อคที่มันทำเอาไว้ได้ กลายเป็นการต่อ Core Fighter ขนาดเล็กๆที่ใช้เวลานานไปซะอย่างนั้น แต่สุดท้ายก็ต่อสำเร็จออกมาตามที่เห็นในรูปนี่แหละครับ ความสมจริงและรายละเอียดก็พอดูได้ แต่ฐานล้อแบบใสนี่ไม่เข้าใจว่าคิดได้ยังไง ไม่เข้ากันเสียเลย ซึ่งฐานล้อสามารถถอดออกจากตัวยานได้ครับ ส่วนตัวยานก็พับหัวลงและสอดเข้าไปในตัวหุ่นได้เหมือนในการ์ตูนเปี้ยบ

การต่อลำตัว มีความสลับซับซ้อนอยู่พอควรครับ แม้ว่าด้านในจะกลวงแต่มันมีเกราะแผ่นเล็กๆติดอยู่รอบตัว เพราะด้วยความที่มันเป็น Ver.3.0 ทางผุ้ผลิตจึงเน้นความสมจริงมากขึ้นด้วยการแบ่งแผงเกราะออกเป็นหลายชิ้นและหลายสี ทำให้การต่อไม่ใช่นำชิ้นส่วนมาประกบกันทีละด้านแล้วจบเลย แต่ยังต้องใส่ชิ้นส่วนเล็กๆเขาไปตามซอกมุมต่างๆอีก เพื่อเพิ่มความสมจริงและเวลาขยับก็จะเห็นถึง "การเลื่อน" ของแผงเกราะด้วยครับ ตัว Core Fighter ที่เอาไว้ใส่ด้านในลำตัวกันดั้ม มีแยกมาให้อีก 1 ชิ้น เป็นแบบที่ไม่ได้เป็นยาน คือเป็นค็อคพิทเหลี่ยมๆมาให้เราเลยสำหรับคนที่ไม่อยากใส่ยานเข้าไปด้านใน แต่ผมว่าใช้ยานที่เราต่อพับใส่เข้าไปจะดูสวยสมจริงเป็นกันดั้มมากกว่าครับ

ด้านแบ็คแพ็คด้านหลังก้มีการเพิ่มลูกเล่นข้อขยับตรงเวอเนียร์ไอพ่นและเพิ่มรายละเอียดตามมุมต่างๆให้ดูดีขึ้นกว่าเวอร์ชั่นเก่าเล็กน้อย ไม่ได้เป็นกล่องเหลี่ยมๆเหมือนในการ์ตูนไปเลยซะทีเดียว ด้านในไอพ่นก็ให้เป็นชิ้นส่วนใสมาครับ ก็ไม่รู้ว่ามันจะช่วยให้ดูสวยงามขึ้นหรืออย่างไร

ต่อหัว ตามสเต็ป ไม่ยุ่งยากและออกมาสวยงามมากครับ ช่องลมที่กกหูไม่ต้องทาสี เพราะด้านในมันออกแนวทึบๆสีเข้มอยู่แล้ว ส่วนตา ถ้าไม่ติดสติ๊กเกอร์ก็มืดๆนั่นแหละครับดังที่เห็นในรูป เป็นหัวกันดั้มที่ผมว่าดูดีที่สุดในรุ่น Master Grade ตอนนี้เลยนะ อ้อ ช่องลมที่หน้าอกตรงกลาง ผมว่ามันดูไม่ค่อยแน่นเท่าไรครับ หลุดง่ายมาก แต่สามารถเลื่อนเปิดปิดแผ่นกันลมด้านล่าง (อย่างในรูป) เพื่อโชว์ห้องคนขับได้ครับ เสร็จไปละ หัว ตัว หลัง...

สำหรับช่วงแขนโดยรวมจะมีปัญหาในการต่อข้อศอกเล็กน้อย เพราะโครงในมีจุดหนึ่งที่ข้อต่อเชื่อมไม่สนิทเวลางอจะมีการหลุดออกมาด้านนอก ต้องคอยเอานิ้วยัดกลับเข้าไป ยังดีที่มันมีเกราะที่สามารถปิดไม่ให้เห็นได้ ด้านข้างของข้อศอกมีแม็กเน็ทโค็ทติ้งกลมๆมาให้ติดเข้าไปแทนแบบเก่า (แต่ก็แถมแบบเก่ามาให้ด้วยนะครับ) ด้านมือก็ให้มาแบบที่เห็นแล้วใน Review Part 1 ก็คือจะเป็นนิ้วที่สามารถขยับได้ทุกข้อ ทำให้สามารถจัดรูปแบบนิ้วได้อิสระตามใจต้องการครับ สวยดี มีลูกเล่น แต่เสียวหักมาก...

เกราะที่หัวไหล่เมื่อแยกออกมาก็จะเป็นดังรูปครับ จุดขยับ จุดเลื่อนของแผ่นเกราะมีการปรับปรุงให้ดีกว่าเวอร์ชั่นเดิม ส่วนการขยับมือก็ทำได้ดังตัวอย่างครับ แล้วแต่ความคิดสร้างสรรค์ของแต่ละคน แต่ผมแนะนำว่าอย่าไปขยับมันบ่อยๆจะดีกว่า หักขึ้นมาแล้วจะน้ำตาตกใน อิอิ

ด้านการต่อขาก็เริ่มต้นที่โครงในเช่นเคยครับ การต่อไม่มีอะไรยุ่งยากนัก จะมีก็แค่ส่วนเกราะด้านนอกที่จะมีแผงเกราะเยอะในแบบ Ver 3.0 เหมือนส่วนอื่นๆ ซึ่งข้อดีของมันคือดูซับซ้อน สมจริงและเมื่อมีการขยับขาในท่าแอ็คชั่นต่างๆพวกแผงเกราะก็จะเลื่อนขยับตามไปด้วย ทำให้หุ่นมีความคล่องตัวเพิ่มมากขึ้นและดูสวยขึ้นมากครับ ที่ผมชอบก็คือเกราะในเวอร์ชั่น 3.0 จะมีการแยกสีมาค่อนข้างหลากหลายมากขึ้น ไม่ใช่เกราะขาวล้วนๆแบบรุ่นก่อนๆ ที่เห็นก็คือจะมีการแซมสีเข้ม-อ่อนเข้ามาด้วยเล็กน้อย (ดูได้ตามรูปเลยครับ) ถ้าเป็น MG เก่าๆ ก็ต้องมากั้นพ่นสีกันเอาเอง แต่สำหรับรุ่นใหม่ไม่ต้องครับ มันจัดเต็มมาให้เราเลย ก็เออ... สะดวกคนต่อดีวุ้ย...

การขยับของช่วงขา หัวเข่า ข้อเท้า ก็งอได้เยอะถึงเยอะมากและมีความยืดหยุ่นสูง แผ่นเท้าด้านล่างทำออกมาเป็นแบบ 3 ชิ้น ทำให้สามารถจัดท่าที่ต้องงอฝ่าเท้าได้อย่างเช่นแอ็คชั่นตอนเดินหรือวิ่ง จะสามารถจัดท่าการวางเท้าได้สมจริงยิ่งขึ้นครับ ตรงนี้ผมมองว่า Bandai พัฒนามาได้ถูกจุดแล้วครับ กด Like ให้เลย

ชิ้นส่วนบริเวณช่วงเอวจะมีการเปลี่ยนแผงเกราะให้ขยับได้มากขึ้น มีลูกเล่นมากขึ้นกว่ารุ่นก่อนครับ จะเห็นว่ามีการเติมรายละเอียดเข้าไปด้วยเหมือนกันในหลายๆจุด ซึ่งก็ถือว่าเป็นข้อดีในเวอร์ชั่นใหม่ของกันดั้มครับ การต่อเอวก้ไม่ยากอะไร ต่อเสร็จก็เอาช่วงขามาเสียบเข้ากันได้เลยทันที ข้อต่อขากับเอวค่อนข้างแน่นครับ มั่นคงไม่มีเอนล้ม จัดท่ายืน-นั่ง-เดินได้เยอะเลยครับ

หลังจากที่ผมต่ออวัยวะกันดั้มจนครบทุกส่วนแล้ว ก็ถึงเวลาเฮนไต เอ๊ย เฮนชินกันสักที แต่ก่อนจะรวมร่าง มาดูกันก่อนว่าสภาพแต่ละส่วนเมื่อแยกออกจากกันมันเป็นเยี่ยงไร

HEN SHIN!

ก็เป็นอันจบรีวิวฉบับรวบรัดของ MG 1/100 Gundam RX-78-2 Ver.3.0 ของ Bandai นะครับ สำหรับกันพลาตัวนี้มีอาวุธแถมมาให้พอประมาณครับ ได้แก่ โล่ห์(ติดอยู่ที่ข้างหลัง) ปืนบาซุก้าสีขาวอันใหญ่ (ห้อยอยู่ที่เอวด้านหลัง) ปืนไรเฟิ้ล (เสียบอยู่กับโล่ห์) และดาบเซเบอร์อีก 2 เล่ม โดยด้ามดาบสามารถเสียบติดกับแบ็คแพ็คได้ทั้งสองอันครับ แต่ โอ้ล่ะหนอ รูเสียบดาบกลับมีขนาดไม่เท่ากัน ข้างหนึ่งก็แน่นซะ อีกข้างก็หลวมสุดๆแบบสองมาตรฐานกันเห็นๆ ถ้าอยากเสียบให้แน่นพอดีก็คงต้องหยอดกาวกันหน่อยล่ะครับ

สุดท้ายคือรูปแสดงความแตกต่างระหว่าง Ver.1, 1.5, 2.0 กับ Ver 3.0 ลองสังเกตุความแตกต่างกันเอาเองเน้อ อิอิ...

Ver. 1.0

Ver. 1.5

(ซ้าย) Ver. 2.0 และ (ขวา) Ver. 3.0

สรุป MG 1/100 Gundam RX-78-2 Ver.3.0

ชอบ

1. ราคาไม่แพง เดิม 4,500 เยน แต่ผมซื้อมาในราคา 3,400 เยน
2. สัดส่วนโดยรวมๆถือว่าหล่อมาก
3. การแบ่งสีพลาสติกมีความหลากหลาย
4. การขยับทำได้คล่องตัวมากขึ้น
5. อาร์ทเวิร์คหน้ากล่องสวยงามมากๆ

ไม่ชอบ

1. ชิ้นส่วนแผงเกราะบางชิ้นต่อลำบาก เดือยเล็ก ทำหักไป 3 จุด T_T
2. เกราะตรงหัวไหล่ หลุดง่ายไปหน่อย เช่นเดียวกันกับโครงในช่วงข้อศอก
3. ชิ้นส่วนหลายชิ้นยังเอาของเดิมมาใช้ จุดที่เปลี่ยนใหม่จริงๆ ไม่เยอะอย่างที่คิด