OZ-00MS2 Tallgeese II โมจีนยี่ห้อ Dragon Momoko ตัวนี้ผมซื้อมาจากสะพานเหล็กในราคา 560 บาทครับ เดิมทีผมต้องการเจ้า Tallgeese III มากกว่า ซึ่งทาง Dragon Momoko ได้ก๊อปปี้ Master Grade ขนาด 1/100 ของหุ่น Tallgeese ออกมาทีเดียวพร้อมกันทั้ง 3 รุ่นเลยครับ (เอ่อ จริงๆต้องบอกว่า Tallgeese III ของ Bandai ก็ยังไม่มี MG นะมีแต่ HG) แล้วก็ทยอยขายเรียงตามลำดับออกมาในเวลาไม่ห่างกันมากนัก ตัว Tallgeese III เป็นตัวที่เพิ่งออกมาใหม่ล่าสุดเลยกลายเป็นตัวที่(ช่วงนั้น)ขายดีที่สุดด้วยเช่นเดียวกัน
MG 1/100 Tallgeese I, II, III โมจีนยี่ห้อ Dragon Momoko |
ด้วยเหตุนี้ตอนที่ผมไปเดินหาซื้อที่สะพานเหล็กมันเลยหมดเกลี้ยงครับ แต่ด้วยความที่ไม่อยากกลับบ้านมือเปล่า ก็เลยตัดสินใจสอยเจ้าเบอร์ II มาต่อแทน ก็มาดูกันครับว่า Tallgeese II มันเป็นยังไงกันบ้างสำหรับงานพลาโมคุณภาพก๊อปปี้แบบจีนแดง (ที่เค้าว่ากันว่าพัฒนาขึ้นกว่าเดิมเยอะ) ส่วนความแตกต่างของหุ่น Tallgeese จากอนิเมชั่นเรื่อง Gundam Wing ทั้ง 3 รุ่น จริงๆมันก็ไม่ได้มีความแตกต่างกันจนเด่นชัดมากนัก จากที่ดูภาพด้านบนก็คงเห็นว่าหลักๆก็จะมีแค่ส่วน หัว ไหล่ และอาวุธ เท่านั้นที่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน (ไม่นับเรื่องการย้อมสี) นอกนั้นก็แทบจะก๊อปพิมพ์เดียวกันมาเป๊ะๆเลยครับ (ประหยัดแม่พิมพ์ดีเนอะ) ร่ายมาเริ่มยาวไปดูการ "แกะกล่อง" กันเลยดีกว่า ผมขอใช้รูปอธิบายเลยก็แล้วกันนะครับ
***รูปในช่วงแรกๆผมใส่ข้อมูลผิดไปหน่อยจาก MG เลยกลายเป็น HG ขออภัยด้วยครับ
สำหรับเรื่องแพ็คเก็จและอาร์ทเวิร์คบนกล่อง MG 1/100 Tallgeese ของ Dragon Momoko นั้นผมต้องขอบอกเลยว่าค่อนข้างประทับใจเป็นอย่างมากครับ DM (Dragon Momoko) เลือกที่จะดีไซน์กล่องขึ้นมาใหม่เอง โดยใช้รูปพลาโมที่ต่อเสร็จแล้วมาขึ้นหน้ากล่อง ซึ่งถ้าใครเล่นโมจีนและตามยี่ห้อนี้มาตลอดก็จะรู้ว่า DM จะใช้รูปแบบนี้บนกล่องพลาโมของตัวเองหลายกล่องด้วยกันครับ ซึ่งผมว่ามันเป็นจุดเด่นที่ทำให้แตกต่างและก็ดูโอเคกว่าการก๊อปปี้หน้ากล่องกันพลา Bandai ของแท้ แล้วมารีทัชเอาโลโก้ เอานู่นเอานี่ออกไปแล้วสร้างรูปขึ้นมาใหม่แทนเข้าไปเป็นอย่างมาก แม้ว่าจะไม่ใช่ทุกกล่องของ DM ที่จะออกแบบมาได้สวยงาม แต่สำหรับ Tallgeese กล่องทุกกล่องสวยจริงๆครับ ทั้ง 3 รุ่นเลย ถ้ามาวางเรียงกันจะเห็นชัดเจนขึ้นทันทีว่ามันเด่นมาก ตัวหุ่นบนพื้นขาว ให้ตายสิโรบิ้น...
มาว่ากันที่ขนาดกล่อง ด้วยความที่มันเป็น MG 1/100 ขนาดกล่องมันจึงหนาพอสมควรแต่ไม่ได้ใหญ่แบบ MG รุ่นใหม่ๆหลายตัวของลุง Bandai ขนาดกล่องโดยรวมยังคงพอๆกับ MG รุ่นเก่าที่เน้นความหนาลึกมากกว่าความกว้างใหญ่ ด้านในก็มีแผงมาให้ในระดับ 20+ แผง พร้อมด้วยคู่มือที่พิมพ์ด้วยกระดาษอาร์ตมันรวมหลายหน้าและมีความหนาเอาเรื่องเลยทีเดียวครับ
คู่มือถือว่าหนาใช้ได้เลยครับ |
ด้านในก่อนไปถึงการประกอบก็จะมีภาพตัวอย่างที่ต่อเสร็จแล้วให้ดู |
แอ็คชั่นตัวอย่างว่ามันโพสท์ท่าอะไรได้มั่ง พร้อมรูปอาวุธที่แถมมาในกล่อง |
แผงพลาสติกรันเนอร์ทั้งหมดในคู่มือ |
ทว่า...มันมีแผงหนึ่งที่มีอยู่ในคู่มือ แต่ไม่มีอยู่ในกล่องครับ (จากรูปด้านบน แผงไหนที่ผมไม่ได้ติ๊กสีแดงเอาไว้ ก็แผงนั่นแหละ) ตอนรู้ว่าแผงขาดหายไม่ครบตามคู่มือผมก็เริ่มเครียดเลย รีบเปิดเช็คในคู่มือยกใหญ่ว่ามันเป็นชิ้นส่วนที่จะเอาไว้ใช้ตรงไหน กลัวว่าจะเป็นชิ้นส่วนสำคัญ แต่ปรากฏว่าหาเท่าไรก็หาไม่เจอครับ พลิกไปมา 3-4 รอบ สรุปก็คือ แม้จะมีรูปแผงรันเนอร์ดังกล่าวอยู่ในคู่มือ แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ถูกนำมาใช้จริงในการต่อ ซึ่งผมก็เดาว่ามันน่าจะมีไว้เพื่อใช้สำหรับ Tallgeese รุ่นอื่นแน่นอน (ไม่ I ก็ III ซักรุ่น) เพราะชิ้นส่วนโดยรวมโดยเฉพาะช่วงตัว แขนและขาของไอ้ทั้ง 3 รุ่นนี้ผมบอกไปแล้วว่ามันเหมือนกันเลย เอาเป็นว่าช่างมันครับ ไม่มี ก็ไม่ต้องใช้ จบ... ไปดูคุณภาพแผงพลาสติกรันเนอร์กันต่อเลยดีกว่า
ประโยคแรกเมื่อผมหยิบแผงรันเนอร์ของมันขึ้นดูก็คือ "โอ้ แม่ เจ้า" DM ก๊อปปี้ชิ้นส่วนมาได้เนียนและสวยมากครับ ถ้าเทียบกับผลงานการก๊อปปี้ของพลาโมจีนแดงยี่ห้ออื่นๆ Tallgeese ตัวนี้ถือว่าอยู่ในระดับ Top ของ MG ได้เลย การแยกสีก็ถือว่าใช้ได้ แม้ว่าความคมชัดของร่องลายและความเนี้ยบไม่อาจนำไปเทียบกับของแท้แช่แป้งได้อยู่แล้ว แต่อย่างที่ผมบอกไปถ้าเทียบกับโมจีนยี่ห้ออื่นๆ รายละเอียดบนชิ้นงานและผิวพลาสติกของ Tallgeese II ยี่ห้อ Dragon Momoko ถือว่าชั้นยอดครับ ไม่เสียดายเงินที่จ่ายไปแน่นอน ผิวก็เนียนเรียบ รอยขรุขระก็ไม่มากอย่างที่คิด แถมบางจุดบางชิ้นยังมีการเพิ่มรายละเอียดลงไปอีก (ของแท้ไม่มี) แต่อย่างไรก็ตามในบางจุด เช่นตามขอบตามมุมก็ยังมีรอยการพิมพ์ที่ไม่ชัดเจน ขาดหาย จากเหลี่ยมก็กลายเป็นมน หรือไม่ก็เบี้ยวไปบ้างเล็กน้อยในบางจุด ซึ่งอยู่ในระดับที่รับได้ครับ ต่อไปก็จะเป็นการเริ่มลงมือ "ต่อดิบ" กันแล้ว ไปชมรูปกันเลย
การต่อดิบ Tallgeese II ไม่มีอะไรยุ่งยากครับ ทั้งตัวค่อนข้างต่อง่ายเป็นไปตามคู่มือบอกเอาไว้เลย ไม่งงอะไรมาก ปัญหาที่เจอและคาดว่าน่าจะเป็นกับ Tallgeese รุ่นอื่นของ DM เหมือนกันก็คือข้อต่อช่วง ไหล่ เอว ข้อมือ และ หัวเข่า ที่อ่อนและหลวมมากถึงมากสุด แถมบางจุดอย่างเช่นข้อมือก็หลุดง่ายมาก (ซึ่งในขั้นต่อดิบนี้ผมก็ยังไม่ได้แก้ไขอะไรด้วย) อีกอย่างก็คือสนับมือด้านหนึ่งยังไม่สามารถประกบเข้ากับนิ้วได้สนิท เพราะถ้ากดมันเข้าด้วยกันแล้วมันจะเด้งออกทันที (ล่าสุดผมเอากาวตราช้างติดมันซะเลย หมดเรื่องหมดราว) ต่อแยกส่วนเสร็จแล้ว ใช้เวลาไปพอสมควรครับ ก็ได้เวลาประกอบร่างเป็นผู้เป็นคนเสียที เอ้า...เฮนชิน!
Ta----DAAAA! |
"หลีกไป ไอ้เตี้ย!" |
อ้อ ผมลองเอา HG 1/144 Blaze Zaku Phantom ของโมจีนยี่ห้อ TT Hongli มายืนเทียบไซส์ดูก็จะเห็นความแตกต่างกันอย่างชัดเจนทั้งในเรื่องขนาดและก็รายละเอียดบนตัวพลาสติกโมเดล (แหงล่ะ) ...
ต้องกางขาขนาดนี้จริงๆ ไม่อย่างนั้นยืนไม่อยู่ (เอาปืนไรเฟิ้ลยันหลังไว้ด้วย) |
แบ็คแพ็คด้านหลัง ดึงกางไอพ่นและปีกเล็กๆออกมาได้ ดูเยอะ! |
การต่อ Backpack ของ Tallgeese เป็นอะไรที่สนุกและท้าทายอีกแล้วครับ (ผมมันพวกบ้าต่อ Backpack) ชิ้นส่วนในการต่อมีความซับซ้อนพอประมาณ ชวนงงไปหลายนาที แต่ผลที่ออกมาก็ค่อนข้างทำให้ผมพอใจครับ เท่ห์ดีนะในความเห็นผม แต่ก็อย่างที่บอกไป พอเอาไปติดเข้าที่หลังของเจ้าทอลกีสเท่านั้นแหละ หึๆ หนักจนยืนด้วยลำแข้งตัวเองไม่อยู่ครับ อย่างที่คาดเอาไว้ไม่มีผิดจนผมต้องเอาพวกอาวุธมาค้ำยันเอาไว้แทนไม้เท้า กว่าจะจัดท่าให้มันยืนได้ตรงๆ (เพื่อถ่ายรูป) สารภาพเลยว่าเล่นเอาเหงื่อตก... และด้วยความที่ข้อต่อช่วงเอวก็อ่อนเหลือหลาย พอจับยืนก็หลังแอ่น จับเอนมาข้างหน้าก็แอ่นไปข้างหลัง จับเอนไปข้างหลังแม่งนอนหงายประชดเลย จับตั้งไปตั้งมาให้มันยืน ก็ขาหลุด... Holy Shit! ...อยากร้องไห้ให้กับข้อต่อของมันจริงๆ
พูดถึงด้านอาวุธยุทธโธปกรณ์ในกล่องก็ให้มาหลายชิ้นครับ เรียกได้ว่าใช้กันไม่ครบอ่ะ ก็มีปืนไรเฟิ้ลยาวสามารถติดเข้าที่ไหล่ได้ ทวนปลายแหลมหนึ่งเล่ม ขวานอีกหนึ่งเล่ม ดาบเซเบอร์อีกสองและก็โล่ห์ชิริวอีกหนึ่งติดเข้าที่ไหล่ได้อีกเช่นกัน ทั้งหมดทั้งมวลนี้คือตัวถ่วงความเจริญของเจ้าทอลกัสทูแบบสุดๆครับ แค่แบ็คแพ็คก็จะยืนไม่อยู่แล้ว พอติดอาวุธเท่านั้นแหละสลบเลย ...หงายหลังล้มทันที กว่าจะจับมันจัดท่าทางให้สมดุลย์จนยืนได้ก็เล่นเอาเหนื่อย ไปดูรูปเซ็ทสุดท้ายที่ทำเอาผมเหงื่อตกกับการจับให้มันยืนถ่ายรูปได้จนสำเร็จครับ...
สรุป MG 1/100 OZ-00MS2 Tallgeese II โมจีน Dragon Momoko
ชอบ
- คุณภาพการหล่อพลาสติกโดยรวม ลายบนชิ้นส่วนค่อนข้างดีกว่าโมจีนหลายๆตัวในท้องตลาดตอนนี้
- รู้สึกว่าเงินที่จ่ายไปคุ้มกับของที่ได้มา
- แถมดีคอลเยอะดี (ยังไม่ได้ติด+ลืมถ่ายรูป)
- แพ็คเก็จ กล่อง คู่มือ สวยงามน่าสะสม
ไม่ชอบ
- ข้อต่อหลายจุดอ่อน หลวม ทำให้ชิ้นส่วนหลุดง่าย ยืนไม่ค่อยอยู่
- แบ็คแพ็คและอาวุธคือตัวถ่วงความเจริญในการยืนด้วยลำแข้งตัวเองเป็นอย่างมาก
- มือไม่สวย ไม่ชอบมือแบบนี้เลย อยากได้มือแบบ Nu Gundam ver. KA มากกว่า
ปล...กำลังวางแผนโมดิฟายมันใหม่ให้ไฉไลกว่าเดิมอยู่ครับ ไม่รู้จะออกมาหมู่หรือจ่า ฮ่าๆ
Video Review
ดีเทลนี่ โมโมเจ๋งจริงนะครับ เห็นแล้วเหมือนโมแท้มาก
ReplyDeleteว่าแต่ผมอยากดูรีวิว งาน MGค่ายอื่นๆมั่งอะครับ พวกภาควิงของ TT อะครับ หามารีวิวให้ได้มั้ยอะครับ 55+
พอดีสนใจพวกโมจีน มีอุปสรรคดีในการต่อและไม่ได้หมูๆเหมือนลุงบัน เวลาต่อเหมือนกับการสร้างหุ่นเลย มีอุปสรรคมั่ง เล็กๆน้อยๆ55+//ขอบคุณล่วงหน้าฮะ^^