รีวิว MG 1/100 Gundam RX-78-2 Ver 3.0 - Review Part 1

รีวิว MG 1/100 Gundam RX-78-2 Ver 3.0

ได้ฤกษ์รีวิวกันดั้มออริจินอล [MG] 1/100 Gundam RX-78-2 Ver. 3.0 เสียที หลังจากที่ซื้อมาดองเอาไว้ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม 2014 กันพลาตัวนี้ผมสั่งซื้อมาจากเว็บไซต์ขายของเล่นญี่ปุ่นที่นักสะสมของเล่นชาวไทยหลายคนน่าจะรู้จักกันดีครับ ซึ่งก็คือเว็บ AmiAmi.com นั่นเองครับ ด้วยราคาที่ถือว่าถูกกว่าที่ขายอยู่ในบ้านเราประมาณสามร้อยบาท ซึ่งราคานี้ยังไม่รวมค่าส่งนะ (แต่ถึงรวมแล้วก็ยังถูกกว่าที่ขายในไทยอยู่ดี) ใช้เวลาเดินทางจากญี่ปุ่น 7 วันเป๊ะๆก็มาถึงมือนักต่อกันพลามือสมัครเล่นชาวไทยคนนี้แล้ว


สำหรับคนที่ต่อกันพลามานานคงพอจะทราบกันดีครับว่าทาง Bandai ได้เคยออก MG ของ Gundam RX-78-2 มาแล้วหลายรุ่นหลายตัวด้วยกัน ย้อนเวลาไปตั้งแต่ยุคบุกเบิกซีรี่ส์ Master Grade [MG] รุ่นแรกในปี 1995 เจ้า Gundam RX-78-2 ก็คือกันพลาตัวแรกที่ทาง Bandai ส่งลงมาประเดิมในซีรี่ส์นี้จนกลายเป็นวัฒนธรรมไปเสียแล้วว่าถ้า Bandai มีการเปิดตัวซีรี่ส์ของเล่นกันพลาใหม่ๆขึ้นมา มันต้องมี RX-78-2 อยู่ในสายการผลิตเริ่มต้นเสมอ แต่ถึงแม้ว่า RX-78-2 ตัวใหม่ล่าสุดที่ผมกำลังจะรีวิวนี้ มันได้ชื่อห้อยท้ายว่า Ver 3.0 แต่จริงๆแล้วสำหรับ MG ถ้าย้อนกลับไปดูจริงๆก็จะเห็นว่ามันออกมามากกว่า 3 ตัวแล้ว ทั้ง Ver.KA หรือ Ver. OYW (One Year Wars) แถมยังมีเวอร์ชั่น 1.5 อีกด้วย ดังนั้นคำว่า Ver.3.0 จึงไม่ใช่การบอกว่านี่คือกันดั้มตัวที่ 3 แต่อย่างใด แต่มันน่าจะหมายถึงรุ่นปรับปรุงล่าสุดในแบบที่ 3 ของ Gundam RX-78-2 มากกว่าครับ

ด้านข้างนี้เป็นชาร์ทที่ผมทำขึ้นเองซึ่งแสดงให้เห็นระยะเวลาในการวางจำหน่าย MG Gundam RX-78-2 ของ Bandai ในแต่ละรุ่นครับ ไม่นับรวม Ver. Crystal, Ver. Coating และ Ver.Asian ก็หลักๆจะทิ้งห่างกันประมาณ 2-5 ปีครับ แต่หลายปีหลังมานี่นับว่าออกถี่มาก ถี่จนนักเล่นกันพลาหลายคนบ่นว่า "เอาอีกแล้ว บันได ย้อมแมวตรูอีกแล้ว" เพราะชิ้นส่วนหลายอย่างในเวอร์ชั่นใหม่หรือกล่องใหม่มันก็คือของเก่า ที่ใช้แม่พิมพ์เก่าปั๊มขึ้นมาและจะมีชิ้นส่วนที่แตกต่างจากเดิมเพียงเล็กๆน้อยๆเท่านั้น ซึ่งผมว่าทาง Bandai คงเน้นผลิตออกมาเอาใจคนที่ชอบเจ้า RX-78-2 โดยเฉพาะแหละครับ (แต่คงเอาใจเกินไปหน่อย)

เอาล่ะครับ มาแกะกล่องลองต่อเจ้าเลยดีกว่า โดยผมจะเริ่มต้นตั้งแต่กล่องพัสดุย์ที่ทางเว็บ AmiAmi ส่งมาถึงผมเลยละกัน ซึ่งตอนแรกที่รับของจากไปรษณีย์ผมก็ตกใจเล็กน้อยเหมือนกันเพราะไม่คิดว่ามันจะกล่องใหญ่ขนาดนี้



ด้านในมีการบุด้วยกระดาษบางๆกันรอยบนกล่องและช่วยในการดึงออกมาจากกล่องลังได้ง่าย ขึ้น ซึ่งขนาดของกล่องกันพลากับกล่องลังพัสดุย์มันทำมาแทบจะเป๊ะๆเลย (เลยทำให้งงว่าทำไมเว็บ AmiAmi มันคิดค่าส่งแพงจัง น้ำหนักบวกขึ้นจากกล่องเดิมๆไปเกือบ 5 ขีด...)



เปิดกล่องออกมา โอ้ว! แสงออร่ากระทบลูกกระตาแทบบอด (เวอร์ป่ะล่ะ) รูปบนหน้ากล่องของกันดั้ม Ver. 3.0 ผมว่าดูสวยงามมากที่สุดในบรรดาทุก Ver. ที่ออกวางขายมาก่อนหน้านี้เลยครับ การวางโพสิชั่น ท่าแอ็คชั่น การลงสี รวมไปถึงคุณภาพในการพิมพ์หน้าปกกล่องมันสวดยวด จนไม่รู้จะเอาคำอธิบายอะไรมาโม้ต่อดี เอาเป็นว่าถ้าจะให้ผมมอบคะแนนให้กับหน้าปกกล่อง ผมให้ไป 10/10 เลยอย่างไม่มีการลังเลครับ เพราะมันสวยจับใจผมจริงๆ

แกะกล่องออกมาดูแผงพลาสติกรันเนอร์กันต่อ คุณภาพโดยรวมก็ยังคงเยี่ยมยอดสมกับเป็นกันพลาของแท้ From Japan (สโลแกนล่าสุดจาก Bandai) รายละเอียดเล็กๆน้อยๆบนชิ้นส่วนปั๊มออกมาได้คมชัดเจนครับ แต่ที่น่าสังเกตุก็คือพวกชิ้นส่วนขนาดเล็กๆมีเยอะมาก รับประกันการต่อได้เลยว่ารอบนี้ปวดกบาลแน่นอน 100% ดูรูปประกอบของแผงรันเนอร์จากด้านล่างกันได้เลยครับ

สำหรับบทความรีวิวในตอนแรกนี้ผมคงต้องขอจบด้วยรูปแผงรันเนอร์ไว้ที่ตรงนี้ก่อนครับ แล้วยังไงผมจะรีบหาเวลากลับมารีวิวต่อในตอนที่ 2 ให้ได้โดยเร็วที่สุด ซึ่งในตอนหน้าก็จะเป็นขั้นตอนต่อดิบกันแล้ว รวมถึงความคิดเห็นของผมที่มีต่อเจ้า Ver 3.0 นี้ครับ ว่ามันจะ Best Good หรือ Bad แค่ไหนบ้าง โปรดติดตามตอนต่อไปครับ... ^_^

Enjoy!